เคล็ดไม่ลับ การกรอกใบสมัครเรียนต่อต่างประเทศ

น้องๆ หลายคนวางแผนการเรียน เลือกหลักสูตรที่ต้องการ และสถาบันที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การสมัครเรียน ซึ่งจะต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ลงในใบสมัครให้ครบถ้วน พี่ๆ ทีมงานวีโกอะบรอดมีเคล็ดลับใน การกรอกใบสมัครเรียนต่อต่างประเทศ มาฝากกันค่ะ

ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว

ส่วนแรกในใบสมัครเรียนส่วนมากจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนและผู้ปกครอง นักเรียนจะต้องกรอกข้อมูลทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษให้ครบถ้วน ข้อมูลที่ต้องกรอก มีดังนี้

  • ชื่อ-นามสกุล สะกดให้ถูกต้องตามพาสปอร์ต, ชื่อเล่น (ถ้ามีระบุ), ชื่อเดิม (ในกรณีเคยเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ถ้ามีระบุ), ชื่อภาษาไทย (ถ้ามีระบุ)
  • ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (Permanent Address)
  • ที่อยู่ปัจจุบัน (Current Address) บางสถาบันจะระบุเป็น Overseas Address
  • วันเดือนปีเกิด ให้ระบุปีเป็น ค.ศ.
  • เพศ หญิง หรือ ชาย (Gender)
  • สัญชาติ (Nationality) ให้ระบุว่า Thai, เชื้อชาติ (Ethnicity) บางคนอาจจะเป็นสัญชาติไทยแต่เชื้อชาติอื่นให้ระบุด้วย
  • เบอร์ติดต่อ ให้ระบุ รหัสประเทศด้วย คือ +66 และตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ สามารถใส่เป็นเบอร์มือถือ หรือเบอร์บ้านที่ติดต่อสะดวก อาจจะเป็นของนักเรียนเอง หรือผู้ปกครอง
  • อีเมล ที่สามารถติดต่อได้สะดวก อาจจะเป็นของนักเรียนเอง หรือผู้ปกครอง
  • เลขที่พาสปอร์ต ดูได้จากในเล่มพาสปอร์ต
  • ข้อมูลผู้ที่ติดต่อได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบุชื่อ-นามสกุล เบอร์ที่สามารถติดต่อได้ และอีเมล อาจจะเป็นผู้ปกครอง หรือผู้ที่ใกล้ชิดที่สามารถติดต่อได้สะดวก
  • ระดับภาษาอังกฤษ ถ้ามีคะแนนสอบ TOEFL/ IELTS ให้ระบุด้วย ถ้าไม่เคยสอบมาก่อน ให้ระบุคร่าวๆ ด้วย เช่น Beginner, Intermediate เป็นต้น
  • บางสถาบันจะมีคำถามว่าเคยเรียนภาษามาแล้วกี่ปี (How long have you studied English?) ต้องแจ้งด้วย โดยให้นับตั้งแต่ปีที่เริ่มเรียน

หลักสูตรที่ต้องการเรียนส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรที่ต้องการเรียน

  • ระบุชื่อหลักสูตรที่สนใจ เช่น General English สำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือ Bachelor of Arts สำหรับหลักสูตรปริญญาตรี เป็นต้น หากเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา ให้ระบุปีที่ต้องการเรียน เช่น Year 10
  • ระยะเวลาที่ต้องการเรียน หากเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษให้ระบุว่าต้องการเรียนกี่สัปดาห์ เช่น 24 weeks เป็นต้น
  • ระบุวันเริ่มเรียน เช่น 1 July 2020 โดยอ้างอิงจากวันเปิดเรียนของแต่ละหลักสูตร และสถาบันนั้นๆ

สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนต่อมัธยมที่ต่างประเทศ จะมีคำถามเพิ่มเติม เช่น Sporting Interests, Cultural Interests เป็นต้น

หากเรียนหลักสูตรมัธยมศึกษา ประกาศนียบัตร หรือปริญญา จะต้องระบุวุฒิการศึกษา และรายละเอียดที่จบมาด้วย ได้แก่

  • ชื่อสถาบันการศึกษาที่จบมาล่าสุด
  • วุฒิการศึกษาสูงสุดที่ได้รับ
  • ชื่อหลักสูตรที่จบ
  • ปีที่เรียนจบหลักสูตร

ที่พักแบบหอพักส่วนที่ 3 ข้อมูลเกี่ยวกับที่พักและการเดินทาง

สำหรับนักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศและต้องการที่พัก รถรับส่งสนามบิน และบริการอื่นๆ จากทางสถาบันต้องกรอกข้อมูลในส่วนนี้ด้วย

  • วันที่เข้าพัก ส่วนใหญ่แล้วสถาบันจะให้เข้าที่พักได้ในวันเสาร์หรืออาทิตย์
  • วันที่ออกจากที่พัก ส่วนใหญ่แล้วสถาบันจะให้ออกจากที่พักได้ในวันเสาร์หรืออาทิตย์ ถ้าเข้าพักวันเสาร์ต้องออกวันเสาร์ ถ้าเข้าพักวันอาทิตย์ต้องออกวันอาทิตย์
  • ระยะเวลาที่ต้องการพัก สำหรับผู้ที่เรียนระยะสั้น 1 – 3 เดือน แนะนำให้จองที่พักตลอดระยะเวลาเรียน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาขนย้ายของ และหาที่พักใหม่ ส่วนผู้ที่เรียนระยะยาวแนะนำให้จองที่พัก 1 เดือนก่อน เพื่อดูว่าสะดวกในการเดินทาง หรือเปลี่ยนใจย้ายไปพักที่อื่น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องคืนเงินค่าที่พักส่วนที่เหลือ สำหรับนักเรียนระดับมัธยม หรือนักศึกษาที่เรียนหลักสูตรในมหาวิทยาลัย แนะนำให้จองที่พักตามระยะเวลาของภาคการศึกษาที่เรียน
  • เลือกประเภทที่พัก สามารถเลือกพัก แบบ Homestay คือการพักกับครอบครัวที่ทางสถาบันจัดหาให้ หรือ หอพักของมหาวิทยาลัย หรือ หอพักเอกชน หรือที่พักประเภทอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน ถ้านักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปีต้องพักแบบ Homestay เท่านั้น
  • ถ้าเลือกพักแบบ Homestay จะต้องแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่
    • สูบบุหรี่หรือไม่ ต้องการบ้านที่สูบบุหรี่หรือไม่
    • ต้องการบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เช่น หมาหรือแมว หรือไม่
    • มีอาหารที่ไม่สามารถกินได้ไหม ถ้ามี ต้องระบุด้วย
    • ต้องการอาหารอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น มังสวิรัติ
    • ต้องปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาหรือไม่ เช่น ผู้นับถือศาสนาอิสลามต้องมีช่วงเวลาที่ต้องละหมาด
    • มีโรคประจำตัว หรือปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องระวังหรือไม่ เช่น เป็นภูมิแพ้
    • ต้องการครอบครัวที่มีเด็กหรือไม่ สามารถเลือกได้ว่า ต้องการบ้านที่มีเด็กที่เล็กกว่า หรือ เด็กที่โตกว่า
    • ต้องการรถไปรับที่สนามบินหรือไม่ หากจองที่พักกับทางสถาบัน แนะนำให้จองรถไปรับที่สนามบินด้วย และจองเฉพาะขาไปเพียงเที่ยวเดียว แต่ถ้าไปเรียนระยะสั้น แนะนำให้จองแบบไปกลับเลย
    • ประกันสุขภาพ แนะนำให้ซื้อมากกว่าระยะเวลาเรียน 1 เดือน เพราะจะได้ครอบคลุมระยะเวลาวีซ่า สามารถเลือกซื้อประกันกับทางสถาบัน หรือซื้อประกันจากเมืองไทยไปได้

นอกเหนือจาก การกรอกข้อมูลในใบสมัครข้างต้น อาจจะมีข้อมูลอื่นๆ ที่ต้องกรอกเพิ่มเติมอีก ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน ที่สำคัญ ข้อมูลทุกอย่างที่กรอกในใบสมัครต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น หากน้องๆ คนไหนเลือกที่เรียนได้แล้ว สามารถติดต่อขอข้อมูลและใบสมัครเรียนของสถาบันที่สนใจได้ที่ทีมงานวีโกอะบรอดค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะกรอกข้อมูลผิดหรือถูก เพราะทางทีมงานวีโกอะบรอดจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือเรื่อง การกรอกใบสมัครเรียนต่อต่างประเทศ ค่ะ

สนใจเรียนต่อต่างประเทศปรึกษาได้ที่ We Go Abroad
📲 Add Line: @wegoabroad หรือคลิก http://bit.ly/2JNl3p7
📞 Call center. 02-7929259, 086-3064102
🌐 www.wegoabroad.com

SHARE